3 คุณสมบัติ ที่จะทำให้เราผ่านเวลาที่ยากลำบากไปได้

ทุก ๆ การกระทำมีผลตามมาเสมอ แม้ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม ในบางครั้งการกระทำอาจจะส่งผลในแง่บวกมากกว่าในแง่ลบ แต่บางครั้งผลการกระทำก็มาในรูปแบบของการลงโทษ ผลสะท้อนของความสะเพร่า ไม่ใส่ใจ ไม่รอบคอบเท่าที่ควร ผู้เขียนบทความนี้ ” ริชาร์ด มัค (Richard Mach)” ได้พบเจอปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ที่ไม่มั่นคงมามากในอดีต และต้องขอบคุณตัวเองเป็นอย่างมากที่ผ่านพ้นมันมาได้ และเขาได้แบ่งปันคุณสมบัติ 3 ประการที่จะช่วยให้ตัวเองอดทนพยายาม เมื่อต้องเผชิญความเหนื่อยล้า คุณสมบัติดี ๆ เหล่านี้ช่วยให้เขาผ่านพ้นวันแย่ ๆ และต่อสู้ต่อไปแม้เส้นทางนั้นอาจจะมีขวากหนามรออยู่ข้างหน้า 1.ความอดทน จดอดทนให้มาก ความอดทนคือคุณธรรมอย่างหนึ่ง มันไม่เพียงแต่เป็นคุณธรรมเท่านั้น แต่มันคือคุณสมบัติที่พึงมี โดยเฉพาะในช่วงวิกฤต การแสดงให้เห็นถึงความอดทนนั้นอาจเป็นความแตกต่างระหว่างการถูกจับกลางพายุหรือการหาที่หลบภัยและการอดทนจนกว่าพายุจะพัดผ่าน ถ้าหากคุณได้ลงมือทำทุก ๆ อย่างดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้แล้วละก็ สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องทำคือเชื่อสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและรออย่างอดทนเมื่อโลกหมุนรอบตัวคุณ อย่ารีบตัดสินใจ ปล่อยให้สถานการณ์มันเป็นไป เมื่อโอกาสให้คุณคว้าช่วงเวลานั้นไว้! 2. เวลา เดินไปพร้อมความอดทน ความอดทนและเวลาเป็นของคู่กัน หากอดทนได้นาน โอกาสก็จะมาถึงในที่สุด เมื่อมีโอกาสเกิดขึ้นมันเป็นความรับผิดชอบของคุณแต่เพียงผู้เดียวในการรับรู้และใช้ประโยชน์จากมัน นั่นคือเมื่อเวลากลายเป็นทุกอย่างอย่างแท้จริง คนเราในฐานะมนุษย์ ควรที่จะฝึกฝนคุณสมบัตินี้ไว้อยู่เสมอ เวลาส่งผลถึงทุกแง่มุมของชีวิตของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพ การทำงาน การเงิน […]

4 สิ่งที่เราควรทำ “ในเวลาว่าง”

สิ่งที่เราสามารถสร้างสรรค์ขึ้นในยามว่างมักจะนำไปสู่ความสำเร็จในอาชีพได้และพนันได้เลยว่าคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างได้อย่างเกิดประโยชน์มากกว่าการนั่งพักบนโซฟาหรือนอนดูหนังเฉย ๆ แน่นอน เราลองสังเกตตัวเอง ว่าเราใช้เวลาว่างไปกับอะไรบ้าง? และลองหากิจกรรมสร้างสรรค์ทำแทนดูสิ 1. ทำงานอดิเรก เคยสังเกตไหมว่า ผู้คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เขาเหมาะจะมีชีวิตนอกเหนือจากการทำงานที่น่าสนใจมากกว่าการไม่ทำอะไรเลย ส่วนหนึ่งมันมาจากกิจกรรมยามว่างที่พวกเขาเลือกทำงานอดิเรกเป็นทางเลือกที่ดีในการคลายความเครียดและเป็นแหล่งของความคิดสร้างสรรค์ เพราะพวกเขาให้ผ่อนคลายกับกิจกรรมที่ได้ทำและมีความสุขไปกับมัน 2. หาความรู้ใหม่ ๆ เสมอ ความสำเร็จมักจะมีที่มาจากความรักในการเรียนรู้ หากต้องการอยากจะสร้างนิสัยรักการเรียนรู้ ให้ลองแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ บางคนชอบเรียนด้วยตัวเอง ส่วนบางคนก็ชอบการเรียนรู้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ พวกเขาจะได้ใช้ความรู้นั้นในการประกอบอาชีพมากขึ้น 3. ทำงานอาสาสมัคร ลองหาโอกาสเป็นอาสาสมัคร ช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส หรือผู้ประสบภัยต่าง ๆ การช่วยเหลือผู้คนช่วยให้เราคิดถึงเรื่องปัญหาอื่น ๆ นอกเหนือจากงาน และทำให้พบแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ มันเป็นวิธีที่ทำให้เรารู้จักตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และผ่อนคลายความเครียดจากงานของตัวเองลงได้ 4. ใช้เวลากับครอบครัวให้มาก พักจากงานทั้งหลายทั้งปวงและลองหันมาใส่ใจคนที่เรารักที่สุด ครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ให้ลองหยุดคิดเรื่องงานและอยู่กับบรรยากาศภายในบ้าน คนที่มีความสุข และ คนที่ประสบความสำเร็จจะเข้าใจดีว่าการพักผ่อนโดยใช้เวลาอยู่กับคนรัก จะช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายในระหว่างเส้นทางสู่ความสำเร็จได้ 

3 วิธีเพิ่มความหลากหลาย เพื่อให้งานได้ประสิทธิภาพ

การเพิ่มความหลากหลายไม่ซ้ำซากจำเจในที่ทำงานไม่ใช่แค่สิ่งที่ควรทำ แต่มันยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้ามากขึ้นอีกด้วย เพราะการที่พนักงานของคุณมีทักษะความสามารถหลากหลายและยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี จะช่วยให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นหมายความว่าผลงานของบริษัทคุณก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน การเป็นนายจ้างที่ดีนั้นไม่ใช่แค่การทำให้พนักงานของคุณทำงานออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่านั้น แต่การช่วยส่งเสริมให้พวกเขามีวิสัยทัศน์ที่ดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช่ เจอความหลากหลายมากขึ้น ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุข รวมไปถึงช่วยจุดประกายพวกเขาให้ค้นพบสิ่งใหม่อยู่เสมอ นั่นแหละที่เป็นสิ่งที่นายจ้างควรทำ และนี่คือ 3 วิธีเพิ่มความหลากหลายให้กับธุรกิจรวมไปถึงพนักงานของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. ยิ่งมีผู้คนหลากหลาย ยิ่งช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรม ถ้าหากว่าทีมของคุณมาจากกลุ่มชาติพันธุ์หรือภูมิหลังที่แตกต่างกัน พวกเขาจะมีประสบการณ์ในชีวิตที่หลากหลาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจหรือการแก้ไขปัญหา เพราะว่าประสบการณ์ที่พวกเขามี จะช่วยเสนอความคิดเห็นในแง่ต่างๆ ให้คุณได้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขามีมุมมองที่แตกต่างกันจนทำให้คุณสามารถมองเห็นแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้น จากบทความของ Harvard Business Review พบว่า ยิ่งบริษัทไหนที่มีความหลากหลายจากบุคลากรในองค์กรรวมถึงสภาพแวดล้อม นั่นจะทำให้บริษัทของพวกเขาสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ดีมากกว่าคู่แข่งรายอื่น 2. เพิ่มความหลากหลายในสถานที่ทำงาน เพิ่มความสุขให้พนักงาน เพราะการทำงานแบบเดิมและสภาพแวดล้อมรูปแบบเดิม ๆ จะยิ่งทำให้พนักงานของคุณรู้สึกเบื่อหน่าย และไม่ได้ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย ในทางตรงข้าม ถ้าหากว่าสถานที่ทำงานของคุณมีความหลากหลายและครอบคลุมผู้คนในทุกรูปแบบให้รู้สึกสนใจจนอยากเข้ามาร่วมทำงานด้วย นั่นจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดความตั้งใจในการทำงานมากขึ้นอีก เพราะจากผลสำรวจของ Glass door พบว่า 2 ใน 3 ของผู้สมัครตัดสินใจเลือกงานที่มีสถานที่ทำงานที่ดูหลากหลายไม่ซ้ำซากจนกลายเป็นที่น่าสนใจมากกว่าที่อื่น อย่างไรก็ตาม ผู้นำบริษัทควรระบุให้พนักงานได้รับรู้วัฒนธรรมภายในด้วยก่อนเกิดการจ้างงาน […]

4 วิธีสร้างความมั่นใจให้ตนเอง

4 วิธี สร้างความมั่นใจให้ตนเอง ในบางครั้งแม้แต่ผู้นำที่ประสบความสำเร็จก็ยังขาดความมั่นใจ ความมั่นใจคือความเชื่อที่จะมีผลต่อพฤติกรรมของเราและเราต้องพยายามรักษาระดับความเชื่อนั้นไว้ จะต้องเรียนรู้ฝึกฝนและเชี่ยวชาญเช่นเดียวกับทักษะอื่น ๆ แต่เมื่อคุณเชี่ยวชาญมันคุณจะถูกเปลี่ยนให้ดีขึ้น และนี่คือ 4 วิธีที่จะช่วยส่งเสริมให้คุณมีความมั่นใจในตนเอง มีดังนี้ 1.วางตัวให้เหมาะสม ภาษากายของคุณสามารถแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเองได้ทันทีคุณควรทำตัวให้เหมือนกับว่าคุณพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ถ้าคุณแสดงกิริยาท่าทางที่บ่งบอกถึงความมั่นใจและไม่รู้สึกว่าคุณอยู่ใต้การบังคับบัญชาของใคร ทำให้คนอื่น ๆ ก็จะมีความเชื่อมั่นในตัวคุณ เมื่อคุณมีบุคลิกภาพที่ดีแล้ว 2. แต่งกายให้เหมาะสม เสื้อผ้าและเครื่องประดับก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันอย่ากลัวที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของคุณผ่านเครื่องประดับทั้งหลายเครื่องประดับที่ดูโดดเด่นหรือเนกไทสีสันฉูดฉาดอาจเป็นสิ่งช่วยให้การเริ่มสนทนากับผู้อื่นง่ายขึ้นก็เป็นได้ 3.พูดจาอย่างมั่นใจฉะฉาน หากคุณมีโอกาสได้ฟังพิธีกรคนโปรดของคุณกำลังพูด ลองสังเกตวิธีการที่เขาหรือเธอใช้ในการพูด ผู้พูดที่ดีต้องพูดด้วยความมั่นใจ มั่นคง ด้วยโทนเสียงที่เป็นจังหวะลองนำวิธีการพูดที่ฉะฉาน แต่ไม่แข็งกร้าวมาปรับใช้กับตัวเองคุณจะรู้สึกว่าความมั่นใจของคุณมันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการพูดเสียงสูง พูดเสียงสั่นกระตุกกระตัก หรือการพูดพึมพำเบาๆ ยิ่งคุณพูดอย่างมั่นใจ ผู้คนก็จะหันมาสนใจฟังคุณมากขึ้น 4.เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ วางแผนล่วงหน้ามีข้อดีที่จะช่วยลดข้อผิดพลาดให้น้อยลงได้ ยิ่งเตรียมตัวไว้ดีขนาดไหน คุณก็จะยิ่งรู้สึกมั่นใจในความสามารถและศักยภาพของคุณ การเตรียมตัวจะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้พยายามเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับงานที่คุณทำ โดยก่อนเริ่มทำงานใด ๆ ก็ตาม คุณควรจินตนาการ ว่าคุณจะรู้สึกยังไงบ้างเมื่องานนั้นสำเร็จออกมา คุณควรแบ่งงานออกมาเป็นส่วน ๆ พร้อมทั้งจัดลำดับความสำคัญของงาน แล้วค่อย ๆ ลงมือทำ 

3 ทักษะที่นักทำคอนเทนต์ควรมีในปี 2019!

ทุกวันนี้คอนเทนต์ในการตลาดเป็นที่นิยมในเกือบทุกบริษัท เพราะการลงคอนเทนต์นั้นเป็น 1 ในกลยุทธ์ที่ส่งผลดีมากในยุคดิจิทัล สามารถเห็นได้ชัดในปี 2561 ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มลงทุนกับ Content Marketing มากขึ้นถึง 53% แตกต่างจากในปี 2559 ที่มีเพียง 39% เท่านั้น ในการทำงานแบบนี้ แน่นอนว่าเราต้องการทักษะที่หลากหลาย เพราะบริษัทส่วนใหญ่มักต้องการผลงานที่แปลกใหม่และทันสมัยเสมอ ด้วยเหตุนี้ทีมทำ Content จึงต้องเตรียมพร้อมด้วยทักษะที่จำเป็นเพื่อให้การทำงานออกมาได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และนี่คือ 3 ทักษะที่หากว่าคุณมีในตัว รับรองได้ว่าทุกบริษัทต้องการตัวคุณอย่างแน่นอน 1. เรียนรู้พัฒนากลยุทธ์ให้โดดเด่น 61% ของผู้เชี่ยวชาญพบว่า การหาคนที่มีความสามารถเชิงกลยุทธ์สำหรับทำคอนเทนต์นั้นถือเป็นเรื่องที่ท้าทายในด้านการทำคอนเทนต์ หากทีมทำคอนเทนต์ในองค์กรใดมีทักษะในการสร้างและพัฒนาคอนเทนต์ไม่เพียงพอ นั่นจะส่งผลให้ผลงานที่พวกเขาสร้างสรรค์นั้นมีคุณภาพน้อยกว่าที่ควร การสร้างคอนเทนต์ไม่ใช่งานง่าย เพราะจะต้องคำนึงถึงทั้งกลุ่มลูกค้า สิ่งที่คุณต้องการโปรโมท รวมไปถึงเทรนด์ต่าง ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้นด้วย และท่ามกลางอัตราการแข่งขันการเรียกความสนใจจากลูกค้าที่สูงขึ้นทุกปี ทีมนักทำคอนเทนต์ควรต้องมีกลยุทธ์ที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งจากบริษัทอื่น ๆ เพราะฉะนั้น ทีมงานด้านคอนเทนต์จำเป็นต้องมีคนที่มีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เช่น มีความยืดหยุ่น มีชั้นเชิง และมีทักษะในการจัดการและประสานงาน เพราะว่าการจะพัฒนาให้กลยุทธ์ให้มีความก้าวหน้าและโดดเด่นนั้น มักจะเกี่ยวข้องกับหลายทีมด้วยกัน หากคุณมีความสามารถและทักษะในการทำงานร่วมกับทีมอื่นและมีความยืดหยุ่นสูง จะยิ่งทำให้คุณได้เปรียบและทำให้งานขององค์กรคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2. […]

4 วิธีรักษานิสัยการผลัดวันประกันพรุ่ง

ถ้าคุณหรือเพื่อนร่วมงาน ชอบผัดวันประกันพรุ่งจนเป็นนิสัย ทำให้งานไม่มีทางเสร็จได้เลย ถ้าไฟไม่ไหม้จริง ๆ คุณไม่มีทางทำงานเสร็จตรงเวลาได้ตลอด หากคุณไม่หัดเริ่มทำให้ตรงเวลาก่อน หรือยิ่งผัดวันประกันพรุ่งนี้บ่อยขึ้นเท่าไหร่ ผลกระทบที่ตามมาก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ได้ โชคดีที่นี่เป็นอาการที่สามารถรักษาให้หายขาดได้หากคุณมุ่งมั่นปรับเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งรางวัลให้ตัวเองเมื่อทำงานสำเร็จ คุณจะรู้สึกสนุกกับการตั้งหน้าตั้งตารอรางวัลมากกว่าการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น แทนที่คุณจะมุ่งมั่นกับการวางแผนทำงาน ลองเปลี่ยนเป็นวางแผนไปเที่ยว หรือไปดูการแข่งกีฬาสักเกมหลังเสร็จงาน การให้รางวัลสำหรับทุกความสำเร็จเล็ก ๆ แก่ตัวเราเองนั้น เป็นสิ่งสำคัญ แทนที่จะรอให้รางวัลสำหรับเรื่องที่ใหญ่กว่าเพียงคราวเดียว พยายามจัดตารางงานและจัดลำดับความสำคัญทุกวัน เรื่องที่แย่ที่สุดของการผัดวันประกันพรุ่งเกิดขึ้นเมื่อคุณลืมทำเรื่องที่สำคัญ หรือไปทำงานที่ไม่ได้รับมอบหมาย การทำลิสต์งานที่คุณต้องทำจะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้จักจัดลำดับ และจัดทำตารางเวลาสำหรับงานที่ต้องทำมากขึ้น ผู้คนส่วนมากมักจะรู้สึกพอใจเมื่อได้ขีดฆ่ารายการสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้ว จัดลำดับให้ “งานหินที่สุด” เป็นอันดับแรกของงานที่ต้องทำ จัดการกับสิ่งที่ท้าทายที่สุดในขณะที่คุณยังมีพลังงานมากที่สุด จะดีกว่าจัดการกับปัญหาเล็ก ๆ ก่อน ถ้าคุณทำงานสำคัญ ๆ เสร็จได้ไว คุณจะมีแรงกระตุ้นให้ทำสิ่งที่เหลืออยู่ได้ทั้งวัน แล้วคุณจะพบว่า คุณไม่เหนื่อยเลยหากทำสิ่งที่ไม่ต้องใช้ความคิด ล็อกตารางเวลาสำหรับงานสำคัญ ในโลกธุรกิจนั้นบางอย่างก็เกิดขึ้นโดยที่คุณไม่ได้คาดคิด และต้องจัดการอย่างรวดเร็ว การให้ผู้ช่วยหรือคนอื่นมาจัดตารางงานงานประชุมหรืองานต่าง ๆ ให้คุณละก็ นั่นจะทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะผัดวันประกันพรุ่งและล้มเหลวในการทำงานมากขึ้น ดังนั้น จงทำงานแบบ “Proactive” หรือการทำงานเชิงรุก มากกว่า “Reactive” […]

Instagram เริ่มทดลองใช้การจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันแล้ว

หลังจากเริ่มพัฒนามาเป็น ECommerce ได้ระยะหนึ่ง เพื่อช่วยให้การซื้อสินค้าสะดวกและครบวงจรมากขึ้น ในที่สุด Instagram ก็เริ่มทดลองการจ่ายเงินภายในแอปพลิเคชัน ตอนนี้ใน Instagram สามารถเข้าใช้ ‘Shopping tags’ เพื่อช็อปในแอปพลิเคชันได้เลย แทนที่จะต้องคลิกเข้าไปเว็บไซต์ของทางร้านค้าเหมือนแต่ก่อน แถมยังเพิ่มตัวเลือกสำหรับชำระเงินทันทีได้อีกด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการทดลองสำหรับผู้ใช้งานที่อาศัยอยู่ในอเมริกา โดยมีผู้ค้าเข้ารวมเพียงแค่ 23 แบรนด์เท่านั้น เพราะการจะก้าวสู่การเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถจ่ายเงินได้ภายในแอปพลิเคชันนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ทาง Instagram จึงเลือกที่จะทดลองเฉพาะกลุ่มก่อนเพื่อทดสอบความผิดพลาดและปรับปรุงมันให้ออกมาดีที่สุด ตัวอย่างการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน   เมื่อคุณเจอร้านที่ถูกใจสามารถกดที่ ‘Shopping tags’ ได้เลย โดยคุณสามารถเลือกแบบการส่งได้ด้วยตัวเอง และเลือกการชำระเงินผ่านทางบัตรได้อีกด้วย สำหรับการชำระเงินนั้น Instagram จะถือช่องทางที่คุณเลือกชำระในครั้งแรกสำหรับเรียกเก็บเงินในครั้งต่อไปด้วย หมายความว่าคุณจะได้กรอกรายละเอียดการชำระเงินเพียงแค่ครั้งเดียว “เมื่อคุณกรอกคำสั่งซื้อครั้งแรกของคุณเสร็จเรียบร้อย ข้อมูลของคุณจะได้รับการบันทึกอย่างปลอดภัยเพื่อความสะดวกในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป โดยคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการจัดส่งใน Instagram เพื่อให้คุณสามารถติดตามการสั่งซื้อได้” โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับรูปแบบเดิม เพียงแค่เพิ่ม Option การช็อปปิ้งให้ดียิ่งขึ้นสำหรับคนที่รักในการซื้อของออนไลน์เท่านั้น และระบบนี้จะเปิดตัวให้ใช้กันทั่วโลกเมื่อไหร่ ทาง Instagram จะแจ้งให้ทราบกันอีกที   แปลโดย : พรรษชล ทิทำ

คำคมของ วอลต์ ดิสนีย์ ผู้สรรค์สร้างสวนสนุกแห่งความสุข

  วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ (Walter Elias Disney) เป็นผู้สร้างผลงานการ์ตูนที่แพร่หลาย และประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลกคนหนึ่ง เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ และสร้างภาพยนตร์การ์ตูนสีเป็นคนแรก เริ่มทำการ์ตูน มิกกี้เมาส์ (Mickey Mouse) โดนัลด์ดั๊ก (Donald Duck) และภาพยนตร์เรื่องยาว เช่น สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and the Seven Dwarfs) , แฟนตาเซีย (Fantasia) , พินอคคิโอ (Pinocchio) และ แบมบี้ (Bambi) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หนังการ์ตูนต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการสร้างจำนวนมาก ดิสนีย์จึงเริ่มทำภาพยนตร์เกี่ยวกับการผจญภัยที่เป็นจริง เช่น เดอะ ลิวิง เดสเสิร์ท (The Living Desert) นอกจากนี้ยังได้สร้างสวนสนุกสองแห่ง และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 59 รางวัล โดยได้รับรางวัลออสการ์ถึง 26 รางวัล […]

พฤติกรรมที่จะช่วยพัฒนาชีวิตคุณให้ดีขึ้น

มีไม่กี่คนที่จะสามารถนำความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มาต่อยอดให้ความคิดนั้นให้สำเร็จได้ และหนึ่งในคุณสมบัติที่แยกคนที่ประสบความสำเร็จออกจากคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็คือ “ความสามารถและความเต็มใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ” แต่นั่นไม่ใช่นิสัยเดียวที่แยกผู้ชนะออกจากผู้แพ้ แท้จริงแล้วมีพฤติกรรมมากมายที่คุณทำอย่างสม่ำเสมอ มันจะมีส่วนช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ และ “ความต่อเนื่อง” นี้ที่สำคัญไม่น้อยเลย เหมือนการที่คุณออกกำลังกาย หากคุณปฏิบัติไม่เป็นประจำคุณก็จะไม่มีทางแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นได้ ซึ่งการพัฒนาทักษะก็ไม่ต่างกัน สัญญากับตัวเอง เมื่อคุณสัญญากับคนอื่น ๆ ไว้แล้ว โอกาสที่คุณจะรักษาคำสัญญานั้นเพราะชื่อเสียงของคุณและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับบุคคลนั้น ๆ แล้วเวลาคุณให้คำมั่นสัญญากับตัวเองล่ะ ? แน่นอนว่าการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตนเองย่อมทำได้ยากกว่าการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผู้อื่น การตั้งคำมั่นสัญญากับตัวเองล้วนช่วยเพิ่มความมีศักยภาพและความมั่นใจในตัวคุณได้ หากคุณอยากรู้สึกว่าไม่มีอะไรหยุดยั้งคุณได้ ให้ลองเริ่มต้นจากการให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง มันจะช่วยให้คุณเป็นคนที่แกร่งขึ้นก็ได้ จดบันทึกความคิดของคุณทันที ส่วนใหญ่แล้วความคิดดี ๆ มักจะลอยผ่านเข้ามาในหัวของเราเหมือนปุยนุ่นก้อนใหญ่ที่สามารถหายไปได้อย่างง่ายดาย และไม่มีอะไรที่น่าปวดใจไปกว่าการพยายามนึกถึงไอเดียนั้นที่ได้ลอยหายไปจากความทรงจำและพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก เพราะฉะนั้นหากมีไอเดียหรือแรงบันดาลใจดี ๆ แวบเข้ามาในหัว คุณต้องรีบจดบันทึกมันไว้ทันที จะเป็นการอัดเสียง หรือจะเขียนคีย์เวิร์คที่จะทำให้คุณจำได้เมื่อไรก็ตามที่อ่านมันก็ได้ พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ การสร้างความท้าทายให้กับตัวเองนั้นจะช่วยให้คุณเป็นคนที่ปรับตัวเก่ง สิ่งที่คุณเลือก จะเป็นตัวกำหนดตัวคุณในวันนี้และตัวคุณในวันข้างหน้า การมีสุขภาพที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งเพียงอย่างเดียว นอกจากสุขภาพร่างกายแล้ว ยังต้องมีสุขภาพจิตและสุขภาพทางอารมณ์ที่ดีด้วย ซึ่งจะมาช่วยทำให้ชีวิตคุณเกิดความสมดุลและเป็นคนที่เพียบพร้อมรอบด้านยิ่งขึ้น เราทุกคนล้วนอาจเคยเจอกับคนที่ฉลาดหลักแหลมมากแต่กลับมีปัญหาทางด้านการเข้าสังคม ดังนั้นคุณจึงควรพัฒนาทักษะทุก ๆ ด้านของตัวเองในทุกครั้งที่คุณมีโอกาส ด้านไหนที่แย่ลงพัฒนาด้านนั้นเพิ่ม เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีแก่ตัวคุณเอง แล้วคุณจะมีความสุขและความสำเร็จในชีวิตยิ่งขึ้นไปอีก