11 วิธีจัดการกับความเครียด

  วิธีง่าย ๆ ที่จะจัดการกับความเครียด ก็คือการนับว่าความเครียดนั้นเป็นข้อมูลอย่างหนึ่ง แทนที่คุณจะปล่อยให้ความเครียดเข้าครอบงำคุณจนทำให้รู้สึกแย่ คุณควรเรียนรู้ที่จะนำมันมาปรับใช้กับชีวิตจริงให้เกิดประโยชน์มากขึ้น แน่นอนว่าในบางครั้งก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องรู้จักรับมือกับมันแทน และ 11 วิธีที่จะช่วยให้คุณรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น เลี่ยงไม่ได้ก็แก้ไขแทน แน่นอนว่าการทำงานคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตึงเครียดได้ และในเมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยง คุณควรจะลองรับมือและแก้ไขมันแทน ลองเปลี่ยนวิธีในการสื่อสารหรือการจัดการงานของคุณในชีวิตประจำวันดูบ้าง ลองระบายความรู้สึกจริง ๆ ของคุณออกมาบ้าง แทนที่จะเก็บมันไว้จนก่อให้เกิดความเครียดสะสมมากกว่าเดิม ลองเปลี่ยนมุมมอง ถ้าคุณมัวแต่โฟกัสส่วนที่เป็นปัญหาและสนใจแต่สิ่งที่ทำให้คุณเครียดมันยิ่งจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่าเดิม ลองคิดใหม่ มองในมุมที่กว้างขึ้น ถึงคุณจะห้ามสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดไม่ได้ แต่คุณสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนมุมมองและวิธีคิดให้ดีขึ้นและกว้างขึ้นกว่าเดิม นั่นจะทำให้คุณเป็นคนรู้จักมองสิ่งต่าง ๆโดยภาพรวมมากกว่าการโฟกัสเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เวลาตัวเองได้พักบ้าง มันจะเป็นเรื่องยากถ้าคุณต้องการเวลาพักผ่อนจากงานหรือโปรเจคที่คุณได้รับมอบหมาย แต่การพักผ่อนพักสมองบ้างก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ในขณะที่คุณกำลังเคร่งเครียดกับการทำงานหรือปวดหัวกับสิ่งต่าง ๆ ลองลุกขึ้นแล้วเดินเล่นเพื่อพักผ่อนดูซัก 20 นาทีเพื่อปล่อยสมองและร่างกายของคุณได้พักบ้าง การหายใจคือพื้นฐานในการลดความเครียด โดยปกติแล้วการหายใจตื้น ๆ แบบที่เราเป็นประจำนั้นจะทำให้ร่างกายและสมองขาดออกซิเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันและระบบหัวใจรวมไปถึงปอดด้วย การฝึกฝนการหายใจเข้าออกลึก ๆ จะสามารถช่วยให้คุณรับมือกับสภาวะตึงเครียดได้เป็นอย่างดี รู้จักควบคุมสมาธิ จากการวิจัยในเชิงวิทยาศาสตร์พบว่าการฝึกสมาธิทำจิตใจให้สงบหรือการอยู่ในที่เงียบ ๆ จะส่งผลไปถึงร่างกายและจิตใจของคุณด้วย การหาที่สงบให้กับตัวเองบ้าง หรือรู้จักฝึกลมหายใจโดยควบคุมลมหายใจเข้าและออกจะทำให้คุณรู้สึกดีมากขึ้น เมื่อคุณได้อยู่ในสถานที่ที่สงบหรือรู้สึกสงบจิตสงบใจ จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนในร่างกายและส่งผลให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ในเวลาที่คุณรู้สึกเครียด […]

อยากขายเสื้อผ้าแฟชั่น ต้องทำอย่างไร?

สำหรับสาว ๆ อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เช่น เปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น แต่ไม่กล้า กลัวเจ๊ง กลัวนั่นโน่นกลัวนี่ ข้ออ้างสารพัด  บางคนก็มีงบที่จำกัด บางคนก็มีอุปสรรคในเรื่องของสถานที่ ทำให้ไม่กล้าเริ่มต้นทำอะไรสักที วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำก่อนเริ่มเปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นมาฝาก การเตรียมตัวก่อนการเปิดขาย สำรวจตลาด ก่อนอื่นคือคุณต้องรู้ว่าคุณจะขายเสื้อผ้าแบบไหนและกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการจะขายให้อย่างเช่นคุณเลือกที่จะขายเสื้อผ้าแฟชั่นคุณต้องตามแฟชั่นอยู่ตลอดเวลาแต่ถ้าหากมีเสื้อผ้ากระแสใหม่เข้ามาเรื่อยๆก็จะทำให้เกิดการค้างสต็อกและจะขายออกได้ยากดังนั้นคุณควรศึกษาก่อนจะลงทุนเพื่อเป็นแนวทางไปสู่อนาคตว่าร้านค้าของคุณจะปังหรือพัง สำรวจทำเลที่ตั้ง เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าที่เราได้ตั้งไว้ และต้องวิเคราะห์ด้วยว่า บริเวณที่ขายนั้นมีร้านเสื้อผ้าที่ขายอยู่มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากมีมากจำเป็นอย่างยิ่ที่คุณต้องสร้างความแตกต่างให้กับร้านของคุณ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ได้ สำรวจต้นทุน เพื่อที่คุณจะได้วางแผนจัดการกับงบประมาณของคุณว่าสินค้าที่คุณจะสั่งมาขายนั้นมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่าจัดส่ง ค่าแพ็กสินค้า ค่าโฆษณา ฯลฯ ดังนั้น คุณควรสำรวจต้นทุนและวางแผนให้ดีจะทำให้คุณดำเนินการได้แบบไม่ต้องไปกู้ยืม และถ้าคุณมีงานประจำแต่คิดจะลาออกจากงานประจำมาขายของแล้วคุณยิ่งต้องคิดให้รอบคอบเป็นสองเท่า สำรวจตัวเอง ข้อนี้ก็สำคัญไม่แพ้ข้ออื่นๆเลยเพราะไม่ใช่แค่ว่าคุณอยากจะเปิดร้านขายเสื้อผ้าก็เปิดได้เลยตามใจคุณจะต้องสำรวจตัวเองว่าคุณพร้อมหรือมีใจรักในงานขายหรือเปล่ารวมไปถึงความอดทนที่คุณมีนั้นมีมากน้อยแค่ไหนเพราะคุณอาจจะไม่ได้ขายดีทุกวันหากวันไหนลูกค้าไม่เข้าแล้วคุณเกิดท้อหรือเลิกขายแบบนี้คุณก็จะสูญเสียเงินไปฟรีๆ เปิดร้านแบบไหนดี? ก่อนที่คุณจะเลือกว่าจะเปิดร้านแบบไหนดี คุณต้องคำนวนงบประมาณก่อนว่าร้านแต่ละแบบนั้นใช้งบประมาณเท่าไหร่ เพื่อที่คุณจะได้วางแผนได้ถูก ไม่ให้เปลืองงบประมาณจนเกินไป แบบมีหน้าร้าน การเปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น หากมีหน้าร้านจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกซื้อหรือลองสินค้าได้เลย สำหรับเสื้อผ้าแฟชั่นแหล่งขายส่งยอดฮิตหนีไม่พ้น “ประตูน้ำ” ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรบุรี ใกล้กับแพลทตินั่ม และตึกใบหยก ที่นี่มีเสื้อผ้าแฟชั่นให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ เครื่องประดับ เสื้อ กางเกง กระโปรง รองเท้า กระเป๋า เปิดตั้งแต่ 05.00 – 21.00 น. และอย่าลืมคำนวนงบในส่วนของค่าน้ำ ค่าไฟ หรือหากเช่าสถานที่ก็เสียค่าเช่าด้วย ซึ่งเริ่มต้นอาจจะอยู่ที่ 4 หมื่น ถึง 5 หมื่น บาท […]