กว่าจะมาเป็นรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini

เชื่อว่า แลมโบกินี (Lamborghini) เป็นรถสปอร์ตในฝันของหลาย ๆ คน ด้วยเครื่องยนต์กำลังแรงและเทคโนโลยีชั้นยอด ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวและดุดัน ทำให้ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง แต่รู้ไหมว่าจนกว่าจะเป็นที่ให้เป็นรถระดับซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini นั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ? และทำไมจึงเรียกรถแบรนด์นี้ว่าโลโก้วัวกระทิงกัน? วันนี้เราจะมาพูดถึงโลโก้ของรถหรูแบรนด์นี้ว่าจริง ๆ แล้วมีที่มาที่ไปอย่างไร ไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง   ก่อตั้งโดย เฟอร์รุชโช  ลัมโบร์กีนี (Ferruccio Lamborghini) ซึ่งมีความชื่นชื่นชอบกีฬาต่อสู้อย่างวัวกระทิงบวกกับเป็นราศีเกิดของ จึงเป็นที่มาของสัญลักษณ์โลโก้วัวกระทิงมาถึงปัจจุบัน เขาเคยทำโรงงานผลิตรถแทรกเตอร์ขาย ธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จในกิจการ เขาได้ซื้อรถสุดหรูอย่าง Ferrari เป็นของขวัญให้ตัวเอง แต่เขาผิดหวังกับมัน เพราะเขาคิดว่ามันอาจจะดีขึ้นกว่านี้ และยิ่งไปกว่านั้น เขารู้วิธีที่จะทำให้มันดียิ่งขึ้น ในฐานะของผู้ใช้รถ Ferrari เขาเดินทางไปพบกับ ‘Enzo Ferrari’ เจ้าของ Ferrari ถึงที่โรงงาน เพื่อบอกถึงคำแนะนำที่จะพัฒนารถให้ดียิ่งขึ้น เอนโซ ได้ ตอกกลับเฟอรุชชิโอว่า เป็นเพียงแค่คนบ้านนอกที่ได้ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับรถสปอร์ต ต่างกับเขาที่มีอยู่เต็มในสายเลือด คำดูถูกในวันนั้นทำให้เขาโต้ตอบ เอนโซ อย่างเจ็บแสบที่สุดด้วยการสร้างรถของเขาเอง โดยมีชื่อบริษัทว่า “Automobile Ferruccio Lamborghini S.P.A” ซึ่งห่างจากโรงงานของเฟอร์รารีเพียง 15 กม.  เป้าหมายของเขาก็คือการผลิตรถสปอรต์ที่ดีที่สุดออกขายแข่งกับ “เฟอรารี่” คู่แข่งตัวสำคัญนั้นเอง ข้อได้เปรียบของลัมโบร์กินีก็คือ ก่อนที่จะหันมาเอาดีกับการผลิตรถสปอร์ทระดับ”ซูเพอร์คาร์” ลัมโบร์กินีมีโรงงานผลิตรถแทรคเตอร์อยู่แล้ว   ผู้ผลิตรถยนต์บางแบรนด์นั้นอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการสร้างสมชื่อเสียงและเกียรติยศ แต่ไม่ใช่กับลัมโบร์กินีที่มีคำขวัญว่า “มาหาลัมโบร์กินี ถ้าต้องการรถที่ดีที่สุดในโลก” ความสำเร็จเกิดขึ้นเพียงชั่วคืน รถสปอร์ทแทบทุกรุ่นของ ลัมโบร์กินี ที่ผลิตออกสู่ตลาด ได้รับความนิยมจนผลิตขายแทบไม่ทัน โดยเฉพาะรถ ลัมโบร์กินี มีอูรา (LAMBORGHINI MIURA) ที่ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมรถยนต์ตูริน เมื่อปี 1965 และออกจำหน่ายสองปีหลังจากนั้น […]

LINE เพิ่มฟีเจอร์ Full HD Voice โทรคุยกันเสียงชัดกว่าเดิม

หลาย ๆ คนที่ใช้ LINE โทรหาเพื่อน หาแฟน คงต้องเห็น Full HD Voice ซึ่ง Full HD Voice นี้ไว้มีโทร Voice Call หรือ Video Call คุยกันด้วยเสียงที่ชัดเจนกว่าเดิม และฟีเจอร์นี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ฟีเจอร์ Full HD Voice ให้สามารถใช้งานได้ในประเทศไทย โดยขณะโทรคุยกันแบบ Voice Call หรือ Video Call จะช่วยให้สามารถได้ยินเสียงกันชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากเดิมจะเป็นแค่ HD Voice แต่เมื่อปัจจุบันได้ปรับปรุงเป็น Full HD Voice แล้วเสียงขณะคุยกันก็จะชัดมากยิ่งขึ้นไปอีก   ทั้งนี้การจะใช้ Full HD Voice ได้นั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องอัปเดตแอปฯ LINE ไม่ว่าจะเป็นบน iOS หรือ […]

5 นิสัยของคนที่มักจะได้รับการ “เลื่อนตำแหน่ง”

Katharine Halpin ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท The Halpin และเป็นที่ปรึกษาด้านความเป็นผู้นำ ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา กล่าวว่า “เมื่อพนักงานมีคุณลักษณะเหล่านี้ พวกเขาจะถูกถือว่าเป็นผู้นำคนหนึ่ง ในบริษัท ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนในบริษัทก็ตาม” และ “พวกเขาจะสามารถรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาและข้อขัดแย้งต่าง ๆ ได้ดี ซึ่งพวกเขาจะรู้วิธีจัดการรับมือให้เป็นไปทิศทางเดียวกับบริษัทโดยธรรมชาติด้วย” เคล็ดลับในการเป็นสุดยอดพนักงานอยู่ ซึ่งมันคือการผสมผสานระหว่างทักษะกับความคิด ที่คุณก็สามารถพัฒนาให้กับตนเองได้ด้วยการยึดหลัก 5 นิสัยที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ 1. การเลือกทำงานในที่ที่เหมาะกับความสามารถของตนเอง Halpin กล่าวว่าการเป็นสุดยอดพนักงานไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าหากความต้องการของบริษัทไม่ได้ตรงกับ ทักษะความสามารถและความคิดคุณที่คุณมี นอกจากนี้รายงาน การวิจัย ปี 2015 โดย Cicero Group พบว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดของการทำผลงานยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอก็คือ การได้รับการยอมรับ โดย 37% ของผลสำรวจชี้ว่า การได้รับความสนใจจากผู้จัดการหรือบริษัทเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้น จงเลือกที่ทำงานที่มีคนเห็นคุณค่าและความสำคัญของสิ่งที่คุณทำด้วยล่ะ   2. การใส่ใจกับสิ่งที่หัวหน้าให้ความสำคัญ Gayle Lantz ผู้ก่อตั้งบริษัท WorkMatters ผู้นำด้านการให้คำปรึกษาจากเมืองเบอร์มิงแฮม รัฐอัลบามา กล่าวว่า สุดยอดพนักงานคือคนที่คอยศึกษาเรียนรู้เป้าหมายหรือความต้องการของหัวหน้าของตน […]

เทคนิคการจัดร้านตลาดนัดให้ลูกค้าติด!!

หน้าร้านเป็นส่วนที่สำคัญมากในการเรียกลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาให้ชะงักและหยุดมอง เพราะว่าสินค้าที่โชว์อยู่นั้นมันเตะตาต้องใจซะเหลือเกิน เวลาที่เราเดินตามห้างสรรพสินค้าหรือตลาดนัดเราก็จะเห็นสินค้าหน้าร้านที่จัดตกแต่งชวนต้องให้เดินเข้าไปหยิบ ๆ จับ ๆ รู้ตัวอีกก็ซื้อมาซะแล้ว ถ้าตลาดนัดล่ะ ? จะสามารถจัดหน้าร้านให้ออกมาได้ดึงดูดใจเหมือนในห้างสรรพสินค้าได้หรือเปล่า ? ขอบอกเลยว่าได้แน่นอน เพียงแค่รู้จักการนำเทคนิคและหลักการจัดวางสินค้าเข้ามาช่วย แค่นี้หน้าร้านของพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายก็จะโดดเด่นขึ้นมาในพริบตา ไปดูกันเลยว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง ? การเตรียมตัว 1.รู้จักตัวเอง? รู้จักตัวเอง ในที่นี้คือ รู้จักสินค้าของตัวเองเป็นอย่างดี ว่าเรากำลังขายสินค้าประเภทไหน ?(products) เราขายให้ใคร ?(target) การที่เรารู้จักสินค้าของตัวเองเป็นอย่างดีเพราะทุกครั้งที่เราแนะนำสินค้าจะทำให้เราคล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และเมื่อเรารู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นกลุ่มไหน โอกาสในที่ลูกค้าจะเข้ามาในร้านย่อมมีอย่างแน่นอน 2.เลือกทำเล การหาทำเลที่ตั้งร้าน จุดสำคัญอย่างหนึ่งของการขาย เราควรเลือกอยู่ที่ที่เป็นสินค้าประเภทเดียวกัน เพื่อที่ว่าเวลาลูกค้าเดินเลือกซื้อสินค้า จะทำให้ลูกค้ามีเวลาในการตัดสินใจว่าจะเลือกร้านไหนดี ยกตัวอย่างเช่น ขายรองเท้า ก็ควรเลือกที่ตั้งร้านให้อยู่ในกลุ่มสินค้ารองเท้าด้วยกัน เพราะถ้าแยกออกไปอยู่ร้านเดียวโดด ๆ หรือไปขายปะปนกับสินค้าคนละประเภท เพื่อหวังจะเป็นร้านเดียวที่ขายบริเวณนั้น คุณคิดผิดเพราะลูกค้าอาจจะเดินมาไม่ถึงร้านคุณก็ได้เพราะคิดว่าหมดไม่มีร้านค้าอื่นแล้ว แต่โชคดีที่ปัจจุบันพื้นที่ในการวางขายสินค้าได้ถูกจัดให้เป็นระเบียบโดยการจัดให้สินค้าประเภทเดียวกันอยู่ในโซนเดียวกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการจับจองพื้นที่โซนดี ๆ ใครเร็วกว่าคนนั้นได้นะจ๊ะ 3. เตรียมอุปกรณให้พร้อมขาย ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตะแกรง เต้นท์ ราวแขวน ไม้แขวนเสื้อ […]