3 สิ่งที่ต้องรู้ ทำไมต้องทำ Video Content คอนเทนต์สุดอมตะแห่งการโฆษณา

ตั้งแต่การมาถึงของโทรทัศน์ เรื่องราวมากมายถูกเล่าผ่านจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มักตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ข่าวสาร ความบันเทิง และการโฆษณาต่างๆ ถูกเล่าผ่านจอสี่เหลี่ยม ภาพเคลื่อนไหวกลายเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์และจับจ้องความสนใจของผู้คนให้นั่งจ้องมองมันได้แทบตลอดทั้งวัน วิดิโอ คือคอนเทนต์สุดอมตะแห่งการสื่อสาร Video Content คือ คอนเทนต์สุดอมตะแห่งการโฆษณา ถ้าอยากได้ความสนใจ ถ้าอยากให้แบรนด์เด่นดังขายสินค้าได้ ไปจนถึงเล่าเรื่องราวที่เข้าถึงผู้คนได้มากมาย ก็ไม่มีทางไหนที่จับความสนใจผู้คนได้กว้างเท่า Video Content อีกแล้ว และนี่คือ 3 เหตุผลสำคัญที่ต้องทำ Video Content เทคโนโลยีที่ก้าวไกลกำลังเรียกร้องหา วิดิโอ การโฆษณาสุดคลาสสิค Video Content สามารถเข้าถึงได้ทุกคนและมันดีต่อทุกคน เทคโนโลยีที่ก้าวไกลกำลังเรียกร้องหา วิดิโอ แพลตฟอร์มสำคัญในการรับชมวิดิโอทุกวันนี้ก็คือ Smartphone ถ้าหากสังเกตกันทุกวันนี้แทบทุกคนล้วนต้องพกพามันออกจากบ้านทุกครั้งและยามใดเมื่อมีเวลาว่าง ระหว่างนั่งรถไฟฟ้าหรือต่อคิวซื้อสินค้า ก็ต้องหยิบยกโทรศัพท์ออกมาเช็คข่าวสารหรือใช้โซเชียลมีเดียเพื่อฆ่าเวลากันทั้งนั้น และหนึ่งในสิ่งที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลนี่ก็คือ วิดิโอ Youtube เป็นแหล่งคอนเทนต์วิดิโอชั้นนำระดับโลกที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย รองลงมาก็คือ Facebook ที่ได้มีการปรับให้แสดงคอนเทนต์วิดิโอมากขึ้น เพียงแค่ดูผลตอบรับระหว่าง วิดิโอ vs รูปภาพ vs โพสต์ข้อความธรรมดา ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นก็ชัดเจนว่าสิ่งใดกันเข้าถึงผู้คนได้มากกว่าและนั้นก็คือ วิดิโอ เทคโนโลยีทุกวันนี้กำลังเรียกร้องหา คอนเทนต์วิดิโอ […]

กว่าจะเป็น “เครื่องบินลำแรกของโลก”

ในช่วงปี 1900s Samuel Pierpont ผู้เชี่ยวชาญอวุโส แห่ง Smithsonian Institution อดีต Professor ทางคณิตศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัย Havard ได้โดนทาบทาม โดย รัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเริ่มโปรเจคที่ยิ่งใหญ่ และน่าตื่นตาตื่นใจ คือ การสร้างเครื่องจักรเพื่อทำให้มนุษย์บินได้เป็นครั้งแรก ทางทีมได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญมากมาย พร้อมด้วยเงินทุนสนับสนุน จากรัฐฯ กว่า $50,000 ดอลล่าร์ ห่างออกมาไม่กี่ร้อยไมล์ Wilbur and Orville Wright สองพี่น้องเจ้าของร้านจักรยานเล็ก ๆ ก็กำลังพัฒนาเครื่องจักรที่บินได้อยู่เช่นกัน หากแต่ไม่ได้มีการทาบทามใด ๆ จากทางรัฐฯ หรือนักลงทุนทั้งสองทำไปเพียงเพราะมีความหลงไหลในการบินตั้งแต่วัยเยาว์ ทั้งสองนั้นไม่ได้มีทีมผู้เชี่ยวชาญหรือเงินทุนช่วยเหลือใด ๆ แม้แต่การศึกษาของทั้งสองก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่นัก มีเพียงประสบการณ์ในการผลิตจักรยานจาก Workshop เล็กๆ ของพวกเขาเท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดี พี่น้อง Wright หรือ ที่เรารู้จักกันดีในนาม “Wright Brothers” ได้ประสบความสำเร็จในการนำเครื่องจักรขึ้นบินได้เป็นครั้งแรกของโลก ในวันที่ […]

Marks & Spencer เตรียมปิดตัวมากกว่า 100 สาขา เพื่อปรับตัวไปขายออนไลน์

ข่าวช็อก! สะเทือนพนักงานประจำร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง Marks & Spencer เมื่อมีการประกาศว่าจะมีการปิดสาขาของแบรนด์เสื้อผ้านี้ถึง 100 สาขาภายในระยะเวลา 4 ปี โดยมีเป้าประสงค์เพื่อจะปรับเปลี่ยนมาทำยอดขายทางออนไลน์มากขึ้น เมื่อยอดขายร้านค้าไม่สามารถสู้ยอดขายออนไลน์ได้ เมื่อการมีหน้าร้าน มีร้านค้าอาจจะไม่ใช่ตัวการันตีว่าจะขายได้ดีอีกต่อไปในยุคสมัยนี้ อย่างแบรนด์เสื้อผ้า Marks & Spencer ที่ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 1 ใน 3 ของยอดขายที่ขายได้จากการขายออนไลน์ ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า ลดต้นทุนการบำรุงรักษาหน้าร้านเพื่อหันมาลงทุนกับการสร้างยอดขายทางออนไลน์ให้มากขึ้น สัญญาณใหม่ของยุคดิจิทัลก็คือ ร้านค้าอาจไม่สามารถสร้างยอดขายต่อวันได้สูงเทียบเท่ากับการขายของผ่านทางออนไลน์และทุกวันนี้ไม่ว่าจะแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์เล็กก็ล้วนขายของผ่านทางออนไลน์ได้อย่างเท่าเทียมกัน แผนตัดร้านค้าที่ไม่จำเป็นเพื่อผลักดันร้านค้าที่ยังอยู่ให้เด่นขึ้น Sacha Berendji ผู้บริหารที่ทำการจัดการร้านค้าปลีกของ Marks & Spencer ได้ออกมากล่าวถึงสาเหตุของแผนปิดตัวร้านมากกว่า 100 สาขาว่า “พวกเราต้องการที่จะสร้างความก้าวหน้าในการสร้างปรับเปลี่ยนร้านค้าให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้นและด้วยความสนับสนุนจากยอดขายออนไลน์ การปิดตัวร้านนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ง่ายมันเป็นการตัดสินใจที่สำคัญต่ออนาคตของแบรนด์ M&S และเมื่อพวกเราทำการปิดร้านค้า พวกเราก็จะได้ทำการสนับสนุนให้ลูกค้าจำนวนมากนั้นย้ายสถานที่ซื้อเสื้อผ้าไปยังร้านค้าที่ยังเปิดอยู่ใกล้บริเวณที่พวกเขาอาศัยอยู่ เพื่อที่จะได้ลงทุนกับร้านค้าที่เปิดอยู่ให้มีสภาพแวดล้อมในการช็อปที่ดีขึ้นกว่าเดิม และนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราตัดสินใจที่จะทำการปิดร้านค้าและปรับปรุงร้านค้าเดิมที่มีอยู่.” แม้แต่แบรนด์เสื้อผ้าก็ต้องปรับตัวมาสร้างยอดขายทางออนไลน์ ไม่ว่าแบรนด์ใดทุกวันนี้ การสร้างยอดขายทางออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงแม้จะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าก็จำเป็นต้องมีการเสียสละอย่างการเสียสละยอมปิดร้านค้ามากกว่า 100 สาขาของ Marks & Spencer เพื่อผลักดันสร้างอนาคตใหม่ที่ดีกว่าให้กับแบรนด์ตนเองนั้นเอง   ที่มา: independent.co.uk

ชุดชั้นในแบบที่ไม่ต้องซัก ที่ได้แรงบันดาลใจจาก NASA

ชุดชั้นในเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องซักเป็นประจำและไม่เหมาะแก่การใส่ซ้ำบ่อยๆ ทำให้บ่อยครั้งก็ความขี้เกียจที่จะซักก็ทำให้มีผ้าเต็มตะกร้า เพื่อหาขจัดปัญหาความขี้เกียจในการซักชุดชั้นใน กางเกงใน แบรนด์แฟชั่นจากเดนมาร์ก Organic Basics ได้แรงบันดาลใจจาก ชุดชั้นในของนักบินอวกาศจาก NASA ในการสร้างชุดชั้นในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสุดล้ำสมัยที่ไม่จำเป็นต้องซักมันได้ยาวนานถึง 1 สัปดาห์ ชุดชั้นในใส่สบายและขจัดแบคทีเรียได้ถึง 99.9% โดยไม่ต้องซักบ่อย ชุดชั้นในจาก Organic Basics นั้นสามารถขจัดแบคทีเรียและความสกปรกต่างๆได้ในตัวถึง 99.9% นอกจากนี้ยังช่วยลดกลิ่นจากความสกปรกที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย จุดประสงค์ของการออกแบบชุดชั้นในนี้ก็คือ เพื่อที่จะให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ โดยไม่จำเป็นต้องซักมันทุกครั้งหลังจากที่สวมใส่ เมื่อไม่จำเป็นต้องซักชุดชั้นในบ่อยๆ ก็จะช่วยประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน ทำให้ชุดชั้นในจาก Organic Basics นั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง แถมวัตถุดิบที่ใช้ผลิตชุดชั้นในนี้นั้นก็ถูกออกแบบมาให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% อีกด้วย ชุดชั้นในของ Organic Basics ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อย่างการที่มันสวมใส่สบายและเข้าได้กับทุกสภาพอากาศไม่ว่าจะร้อนหรือเย็น ความสุดยอดของชุดชั้นในนี้ก็คือไม่จำเป็นต้องซักบ่อยๆ และมันยังเป็นสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสุดๆ อีกด้วย ได้ทั้งประหยัดพลังงานและสวมใส่ชุดชั้นในที่สะดวกสบาย   ที่มา: independent.co.uk

10 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกปี 2018

Forbes ได้ออกมาเปิดเผยถึงรายชื่อ 10 อันดับของบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกของปี 2018 แล้วเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา มาดูกันว่ามีใครบ้างที่ติดอันดับบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก 10.Larry Page แลร์รี่ เพจ (Larry Page) คือผู้ร่วมก่อตั้ง Google และนักวิทยากรคอมพิวเตอร์ และ CEO ของบริษัท Alphabet.Inc 9.Narendra Modi นเรนทระ โมที (Narendra Modi) คือนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย 8.Mohammed Bin Salman Al Saud มุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด(Mohammad bin Salman Al Saud) กุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 แห่งซาอุดีอาระเบีย 7.Bill Gates บิล เกตต์ (Bill Gates) […]

Instagram เตรียมมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับจ่ายเงินผ่านแอพ

Instagram คือโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกและหนึ่งในจุดเด่นของ Instargram นั้นก็คือมันสามารถเป็นช่องทางสำหรับการค้าขายสินค้า-บริการต่างๆ มากมายยอดนิยมไม่แพ้ Facebook เลยล่ะ ข่าวอัปเดตล่าสุดก็คือ Instargram กำลังพัฒนาเตรียมจะมีฟีเจอร์ใหม่ชั่นสำหรับจ่ายเงินผ่านแอพโดยตรงที่จะช่วยให้ขาช็อปสามารถช็อปได้สบายมากขึ้นและฝ่ายคนขายของก็สามารถสร้างกำไรได้สะดวกสบายมากขึ้   ซื้อขายง่ายได้แค่คลิกเดียว ฟีเจอร์ใหม่ของ Instargram นี่จะสามารถเข้าถึงได้ตรงที่ตั้งค่าของบัญชี และเมื่อเข้าไปก็จะสามารถผูกบัญชีกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้ เมื่อผูกบัญชีและยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว คุณก็จะสามารถซื้อสินค้าไปจนถึงการจองบริการต่างๆ ตั้งแต่ร้านอาหารไปจนถึงโรงแรมได้ง่ายภายในคลิ๊กเดียวโดยไม่จำเป็นต้องออกจาก Instargram   ธุรกิจบน Instragram จะรุ่งเรื่อง เมื่อฟีเจอร์การจ่ายเงินผ่าน Instragram เปิดใช้งานได้สำหรับทุกพื้นที่ทั่วโลก ธุรกิจบน Instragram จะรุ่งเรื่องมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยไม่เพียงแค่ Instragram มีผู้ใช้งานจำนวนมากอยู่แล้ว แต่จำนวนผู้ที่ต้องการจะมาเปิดธุรกิจบน Instragram ก็จะมีมากขึ้นเช่นกันและด้วยความสะดวกสบายของการซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดายผ่านแอพนั้นจะทำให้ สินค้าและบริการสามารถขายได้ง่ายมากขึ้น แผนต่อไปของ Instargram ก็จะเป็นแผนการเตรียมขายโฆษณาของ Instragram ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นฟีเจอร์นี้นั้นเป็นฟีเจอร์ที่ดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งาน Instargram แต่พึ่งระวังการใช้จ่ายของคุณให้ดี มิเช่นนั้นเงินในกระเป๋าของคุณอาจจะหมดก่อนเวลาสิ้นเดือน หากช็อปแบบไม่ระมัดระวังผ่านฟีเจอร์สุดสะดวกสบายนี้บน Instargram   ที่มา: techcrunch.com

Instagram เตรียมมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับจ่ายเงินผ่านแอพ | TheEnsure

Instagram คือโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกและหนึ่งในจุดเด่นของ Instargram นั้นก็คือมันสามารถเป็นช่องทางสำหรับการค้าขายสินค้า-บริการต่างๆ มากมายยอดนิยมไม่แพ้ Facebook เลยล่ะ ข่าวอัปเดตล่าสุดก็คือ Instargram กำลังพัฒนาเตรียมจะมีฟีเจอร์ใหม่ชั่นสำหรับจ่ายเงินผ่านแอพโดยตรงที่จะช่วยให้ขาช็อปสามารถช็อปได้สบายมากขึ้นและฝ่ายคนขายของก็สามารถสร้างกำไรได้สะดวกสบายมากขึ้ ซื้อขายง่ายได้แค่คลิกเดียว ฟีเจอร์ใหม่ของ Instargram นี่จะสามารถเข้าถึงได้ตรงที่ตั้งค่าของบัญชี และเมื่อเข้าไปก็จะสามารถผูกบัญชีกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้ เมื่อผูกบัญชีและยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว คุณก็จะสามารถซื้อสินค้าไปจนถึงการจองบริการต่างๆ ตั้งแต่ร้านอาหารไปจนถึงโรงแรมได้ง่ายภายในคลิ๊กเดียวโดยไม่จำเป็นต้องออกจาก Instargram   ธุรกิจบน Instragram จะรุ่งเรื่อง เมื่อฟีเจอร์การจ่ายเงินผ่าน Instragram เปิดใช้งานได้สำหรับทุกพื้นที่ทั่วโลก ธุรกิจบน Instragram จะรุ่งเรื่องมากยิ่งขึ้น เนื่องด้วยไม่เพียงแค่ Instragram มีผู้ใช้งานจำนวนมากอยู่แล้ว แต่จำนวนผู้ที่ต้องการจะมาเปิดธุรกิจบน Instragram ก็จะมีมากขึ้นเช่นกันและด้วยความสะดวกสบายของการซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดายผ่านแอพนั้นจะทำให้ สินค้าและบริการสามารถขายได้ง่ายมากขึ้น แผนต่อไปของ Instargram ก็จะเป็นแผนการเตรียมขายโฆษณาของ Instragram ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นฟีเจอร์นี้นั้นเป็นฟีเจอร์ที่ดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งาน Instargram แต่พึ่งระวังการใช้จ่ายของคุณให้ดี มิเช่นนั้นเงินในกระเป๋าของคุณอาจจะหมดก่อนเวลาสิ้นเดือน หากช็อปแบบไม่ระมัดระวังผ่านฟีเจอร์สุดสะดวกสบายนี้บน Instargram   ที่มา: techcrunch.com

ครั้งแรกของโลก สวีเดนทดลองเปิดรางถนนที่สามารถชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ได้

สโลแกน ประหยัดพลังงาน เป็นสิ่งที่หลายประเทศทั่วโลกต่างหาทางที่จะรักษาและอนุรักษ์พลังงานที่มีอยู่บนโลกนี้ให้อยู่นานที่สุด และหนึ่งในพลังงานสำคัญอย่าง น้ำมันและเหล่าพลังงานฟอสซิล ที่มีความจำเป็นมากขึ้นอาจจะไม่ได้จะมีอยู่ไปได้อีกนาน การหาพลังงานทดแทนมาใช้เป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างจับตามอง เทคโนโลยีพัฒนาและได้เข้าสู่ยุคแห่งรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าหรือพลังงานแสงอาทิตย์ ไปจนถึงรถยนต์ที่ไร้คนขับ ในตอนนี้ ครั้งแรกของโลก สวีเดนทดลองเปิดรางถนนที่สามารถชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ได้ โครงการ eRoadArlanda เพื่อล้มเลิกการใช้พลังงานฟอสซิลภายในปี 2030 ประเทศสวีเดนมีเป้าหมายที่จะล้มเลิกการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิลภายในปีค.ศ.2030 โดยเริ่มจากการลดการใช้งานพลังงานฟอสซิลในการคมนาคม 70% ของพลังงานที่ใช้อยู่ทั้งหมดและได้ให้กำเนิดโครงการ eRoadArlanda โครงการสร้างถนนที่มีรางสำหรับใช้ชาร์จไฟฟ้าที่จะสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 80-90% แถมการใช้พลังงานไฟฟ้านั้นยังสะอาดกว่า, เงียบกว่า และถูกกว่าแหล่งพลังงานอย่างอื่นอีกด้วย โดยในตอนนี้มีรางถนน 2 กิโลเมตรนี้ได้ถูกติดตั้งบนถนนที่อยู่ห่างไปจากเมืองหลวงสวีเดนไม่ไกลนัก เมื่อโครงการ eRoadArlanda สำเร็จจะช่วยให้ประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานฟอสซิลเสียทั้งหมดและยังสามารถช่วยลดมลภาวะพิษทางอากาศ รวมถึงยังช่วยให้เหล่ายานพาหนะและพลังงานไฟฟ้ามีราคาถูกลงได้อีกด้วย เป็นโครงการที่วางแผนก้าวไกลในการสร้างความมั่นคงของประเทศและยังช่วยปกป้องดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ได้อีกด้วย   ที่มา: theguardian.com

Facebook เตรียมเปิดบริการสำหรับ หาคู่ ช่วยคุณตามหารักแท้

ข่าวจากการประชุมครั้งล่าสุดประจำปีของ Facebook คือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประกาศว่า Facebook เตรียมเปิดตัวระบบใหม่ซึ่งเป็นบริการสำหรับหาคู่ โดยเขาได้กล่าวถึงจุดประสงค์ในการสร้างบริการสำหรับหาคู่นี้มาจาก “มีผู้ใช้งานกว่า 2 ร้อยล้านคนทั่วโลกที่ระบุว่าพวกเขาโสด และหากเรามุ่งมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายระหว่างผู้คน นี่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ีมีความหมายที่สุดในทั้งหมด.” Facebook ต้องการจะสร้างความสัมพันธ์เชื่อมโยงผู้คนให้เข้าหาใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและบริการสำหรับหาคู่นี้จะไม่ใช่สำหรับการใช้มันเพื่อหาคู่นอนแต่จะเป็นช่วยหาความสัมพันธ์ระยะยาวที่แท้จริง โดยบริการหาคู่ของ Facebook นั้นจะสามารถแชทถึงคู่เดทได้โดยเฉพาะที่ไม่ใช่ในรายชื่อเพื่อนที่มีอยู่ในแชทที่สร้างขึ้นสำหรับการหาคู่โดยเฉพาะ นั้นจึงทำให้เป็นการแบ่งแยกพื้นที่ของการหาคู่และหาเพื่อนได้อย่างชัดเจน Facebook vs Tinder การประกาศเปิดตัวจะสร้างบริการ หาคู่สำหรับ Facebook เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานตามหารักแท้ที่ไม่ใช่เพียงแค่คู่นอนนั้นเป็น การประกาศที่สร้างผลกระทบต่อ Tinder บริการหาคู่รายใหญ่ของโลกเป็นอย่างมาก ไม่นานหลังจากข่าวสารนี่ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้หุ้นของบริษัทเจ้าของ Tinder นั้นตกลงถึง 22% ศึกต่อไปครั้งใหญ่ระหว่างบริการหาคู่รายใหญ่ของโลกนั้นก็คือ การช่วยผู้คนตามหารักแท้ นั้นคือโฆษณาคติประจำใจสำหรับแอพคลิเคชั่นหาคู่ ทุกเจ้าล้วนสัญญาในการตามหารักแท้เป็นจุดประสงค์หลักแต่จุดประสงค์รองมันก็กลายเป็นบริการสำหรับการหาคู่นอนได้อีกด้วย เมื่อยังมีความเชื่อที่ว่า ไม่มีใครพบรักแท้ได้จากแอพคลิเคชั่นหาคู่หรอก Tinder ต้องเตรียมรับมือกับศึกครั้งใหญ่ เพราะ Facebook นั้นมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากและการมาถึงของบริการหาคู่ของ Facebook คงจะแย่งผู้ใช้บริการจาก Tinder ไปมากเลยทีเดียว ท้ายที่สุดแล้วในศึกแอพพลิเคชั่นสำหรับหาคู่ ใครกันจะเป็นผู้ชนะนั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตารอดูต่อไป ในส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัว Facebook ให้การว่าจะทำการปรับปรุงดูแลความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของบัญชีทุกบัญชีให้ดีที่สุด   […]

พลังแห่งคอนเทนต์ และเหตุผลว่าทำไมกัน คอนเทนต์ ถึงคือ ราชา

“คอนเทนต์ คือ ราชา.” คือหัวข้อของเรียงความที่ บิล เกตส์ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ Microsoft ค.ศ.1996 และประโยคที่สนับสนุนเหตุผลว่าทำไมกัน คอนเทนต์ ถึงคือราชาในยุคแห่งอินเทอร์เน็ตนั้นก็คือ “คอนเทนต์คือที่ที่ผมคาดหวังว่ามันจะสร้างเงินได้เป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ เช่นเดียวกันกับการกระจายข่าวสารข้อมูล.” ในตอนนั้นมีเพียงบางส่วนของโลกเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และผู้ที่รู้จักใช้ผลประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์ก็ต่างสำเร็จผลอันยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ อย่าง แจ็ค หม่า เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักพลังแห่งคอนเทนต์และเริ่มต้นจากการสร้างเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลเล็กๆที่เป็นฐานก้าวไกลไปสู่เว็บค้าปลีกแห่งเอเชียได้ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจและแบรนด์ดังมากมายที่เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยแต่ก็สามารถพัฒนาตนเองจนกลายเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะรู้จักพลังแห่งคอนเทนต์  บิล เกตส์ได้ทำนายอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ตล่วงหน้าไว้ถึง 20 ปีแล้วและสิ่งที่เขาทำนายไว้นั้นก็ถูกต้อง ยิ่งในทุกวันนี้ เป็นยุคที่ คอนเทนต์ คือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์และธุรกิจ มันสามารถช่วยให้แบรนด์ก้าวไกลเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลได้ มันสามารถช่วยธุรกิจให้สามารถสร้างยอดขายมากกว่าเดิมได้ ถ้าหากคุณยังไม่เชื่อว่า คอนเทนต์นั้นมีพลังมากขนาดไหน มาอ่านเหตุผลที่จะช่วยให้คุณเข้าใจพลังของคอนเทนต์มากขึ้นและรู้ว่าทำไมกันถึงต้อง ขนานนามมันว่า คอนเทนต์ คือ ราชา แห่งโลกออนไลน์ คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ คอนเทนต์ช่วยสร้างยอดขายใหม่ๆให้กับธุรกิจได้ คอนเทนต์ที่ดีช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วม คอนเทนต์ดีต่อ SEO คอนเทนต์คุณภาพ > คอนเทนต์ปริมาณมาก   คอนเทนต์สร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจ พลังสำคัญของคอนเทนต์นั้นก็คือมันสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และธุรกิจได้มากขึ้น เมื่อมีการเผยแพร่คอนเทนต์สู่โลกออนไลน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการของแบรนด์จะช่วยให้ลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ในอนาคตเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้นมากขึ้น พวกเขาจะสามารถเข้าใจว่า แบรนด์นั้นต้องการสื่อถึงอะไร ขายอะไรบ้างและทำให้พวกเขารู้จักแบรนด์มากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างแบรนด์หนึ่งที่มีคอนเทนต์ให้อ่านเกี่ยวกับสินค้าและบริการ มีคอนเทนต์อัปเดตใหม่ๆอยู่เสมอและอีกแบรนด์ที่ไม่มีคอนเทนต์ที่อัปเดต ไม่มีคอนเทนต์มากมายให้อ่านมากนัก […]