ทำไมหนังหรือละครต้องมีฉาก 18+

ภาพยนตร์หรือละคร เป็นสื่อที่ทรงพลังมาโดยตลอดในการสร้างความบันเทิง ให้ความรู้ และกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกคนดูอย่างเรามาอย่างยาวนาน แต่แน่นอนด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแบบนี้ มันเลยมีหลายประเด็นให้ถกเถียงกัน หนึ่งในนั้นคือเรื่อง ฉาก 18+ ในภาพยนตร์หรือละคร แม้ว่าบางคนจะแย้งว่าฉากแบบนี้มัน “ไม่จำเป็น” หรือสร้างความเสียหายด้วยซ้ำ แต่ในทางกลับกันก็ยังมีหลายคนที่เชื่อว่าฉากเหล่านี้มัน “มีจุดประสงค์” ในการเล่าเรื่องและสะท้อนประสบการณ์ตัวละครผ่านการแสดง Ensure เลยอยากจะมาชวนคุยกันหน่อยว่าอะไรคือสาเหตุที่บางครั้งภาพยนตร์มีฉาก 18+

 

ถ้าจะหาเหตุผลว่าทำไมต้องมีฉาก 18+ หนึ่งในคำตอบที่ได้มาคือเรื่อง “ความเป็นจริงของชีวิต” แน่นอนว่า “เซ็กส์” นั้นเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่การที่ผู้กำกับเลือกที่จะใส่ฉากแบบนี้มาในภาพยนตร์หรือละคร ก็เพื่อถ่ายทอดความเป็นจริงของชีวิต รวมถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์แบบโรแมนติก จิตวิทยาของมนุษย์ ไปจนถึงประเด็นทางสังคม เหมือนในภาพยนตร์ “ออปเพนไฮเมอร์” ที่มีการใส่ฉากร่วมรักกันของตัวละคร ที่ในระหว่างนั้นมีการหยิบคัมภีร์ “ภควัทคีตา” หนึ่งในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู มาอ่านจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ให้หมู่ชาวฮินดูเป็นวงกว้าง 

 

เหตุผลที่สองเลยคือเรื่องของ “ศิลปะ” เช่นเดียวกับรูปแบบศิลปะอื่น ๆ ภาพยนตร์หรือละครก็

เปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ผู้กำกับบางคนเลยเลือกที่จะใส่ ฉาก 18+ เข้าไปด้วยเพื่อแสดงออกทางศิลปะหรือเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ความรัก ความปรารถนา ความอ่อนแอ หรือแม้กระทั่งแง่มุมลบ ๆ ข องมนุษย์อย่างการล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืน ฉากพวกนี้ก็ช่วยทำหน้าที่กระตุ้นความคิดและกระตุ้นให้เกิดการสนทนาเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมในเรื่องต่าง ๆ ได้ในอีกทาง

 

แต่แน่นอนเมื่อมีคนเห็นด้วยก็ย่อมมีคนค้าน ​เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นดีเห็นงามกับฉากเหล่านี้  จนหลายครั้งที่ภาพยนตร์หรือละครมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอะไรคือเส้นแบ่งของ “ศิลปะและสื่อลามก” มองว่าเพราะฉากพวกนี้ขายได้เลยใส่มา โดยเฉพาะผู้ชมอายุน้อยที่ผู้ใหญ่ก็กังวล จนเกิดการสนับสนุนให้เกิดการเซนเซอร์และการจำกัดอายุ นอกจากนี้ยังมีประเด็นว่าฉากเหล่านี้มักมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้หญิงกลายเป็นวัตถุมากกว่าผู้ชาย ทำให้เกิดความไม่สมดุลทางเพศ และส่งเสริมทัศนคติเหมารวมที่เป็นอันตราย

 

หรืออาจเป็นเพราะที่นี่คือประเทศไทยวัฒนธรรมหรือการรับรู้อาจจะต่างกับเมืองนอกก็ได้ มันเลยทำให้ทุกครั้งที่ภาพยนตร์หรือละครไทยที่มีฉากทำนองนี้มักจะมีเรื่องให้ถกเถียงกันทุกครั้งไป สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราในฐานะคนดูที่จะตีความฉากพวกนี้อย่างไร แต่น้อย ๆ ก็อยากให้เปิดใจเปิดกว้าง มองสิ่งที่ผู้สร้างอยากจะสื่อออกมาเป็นสิ่งสำคัญ และถ้าใครไม่อยากพลาดเรื่องราวสาระแบบนี้ ก็อย่าลืมติดตาม Ensure เอาไว้ด้วย

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn