โลกทวิตอันแสนวุ่นวายของนาย Elon Musk

เมื่อโลกแห่งที่สองของมนุษยชาติเกิดความโกลาหล

นี่ก็ผ่านไป 8 เดือนแล้วนะคะ ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่นายตัวแสบ Elon Musk เข้ามา Take over Twitter อันแสนรักของชาวทวิตเตี้ยนแบบดิชั้น และก็นำพาเรื่องราวชวนปวดหัวไม่หยุดไม่หย่อนกันเลยทีเดียว นอกเหนือจากที่ชั้นต้องมาใส่ใจปัญหาร้อยแปดตั้งแต่ BTS(รถไฟฟ้า) เสีย เพื่อนร่วมงานที่แสนจะน่ารัก เจ้านายที่คอยเอาแต่สั่งไม่หยุดไม่เว้นวันหยุดราชการ แถมยังต้องมาลุ้นให้แดดดี้พิธาต้องเป็นนายกอีก ที่ขาดไม่ได้ต้องขายลูกชายลูกสาวที่น่ารักที่สุดของมัมหมี แค่นี้ก็วุ่นวายจะตายอยู่แล้ว แต่อยู่ดี ๆ ก็มีนาย Elon Musk จ้องจะเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ไม่เคยจะถามความเห็นใคร

เริ่มต้นด้วยการ “ไล่พนักงานออก” กว่า 7,500 คน (พฤศจิกายน 2565)

สัปดาห์แรกแกก็สร้างวีรกรรมเลยค่ะ หลังเข้าเทคโอเวอร์กิจการของ Twitter นายคนนี้ก็ได้ไล่ CEO คนเก่า Parag Agrawal ออกทันที พร้อมกับผู้บริหารระดับสูงอีกหลายคน ถัดมาค่ะก็บอกว่าจะปลดพนักงานออกกว่า 7,500 คน เพราะต้องการลีนบริษัทค่ะแม่ แต่ลีนถึงขั้นปลดแม่บ้านประจำสำนักงานออกก็ไม่ไหวนะคะ เห็นว่าพนักงานต้องพกทิชชู่มาเอง

เครื่องหมายถูกก็ซื้อได้ด้วยฟีเจอร์ Twitter Blue (พฤศจิกายน 2565)

ชาวทวิตก็คงจะทราบกันดีนะคะที่กว่าจะได้เครื่องหมาย Verify หรือ ติ๊กถูกนี่ยาวนานเป็นปี ลูกชายลูกสาวของดิชั้นบางคนยังไม่ได้เลยค่ะ แต่ก็เพื่อความปลอดภัยอะเนาะ อยู่ดี ๆ นาย Elon ทำ Twitter Blue ขึ้นมาจ้าาาา จ่ายเงินได้เครื่องหมายถูกทันที เห็นว่าจะเอาไว้แยกแยะไอดีปลอม แน่นอนว่าก็มีคนปลอมเป็นคนดังทวิตกันว่อนเลยจ้าา สร้างความวุ่นวายในโลกทวิตกัน 2-3 วัน ก่อนที่นัง Elon จะปิดระบบไป และแอบๆ นำกลับมาใช้ใหม่ในเดือนธันวาคมจนถึงตอนนี้

 

อยู่ดี ๆ Twitter ก็โชว์ยอดวิว View (ธันวาคม 2565)

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องดี ๆ นะคะ หนึ่งในเรื่องดี ๆ จากเรื่องแย่ ๆ ที่มีอยู่มากมายของหล่อนก็คือการปรับให้ Twitter โชว์ยอดวิว หรือ ยอดการมองเห็น หรือ ยอด Impression ที่แบรนด์หลาย ๆ แบรนด์ต้องการจะทราบว่าแคมเปญของชั้นแมสขนาดไหนแล้ว เหตุผลที่นางบอกก็คือว่า “คนส่วนใหญ่เอาแต่อ่านเฉยๆ” ชั้นก็เลยโชว์ยอดดูกันให้เห็นกันไปเลยค่ะ ตัวแม่จะแคร์เพื่อ

นกฟ้าก็มี For you นะคะ แบบที่ Tiktok มีนั่นแหละค่ะ (มกราคม 2566)

ดูเหมือนว่ากระแสของ Tiktok จะสร้างแรงกระทบกับหลาย ๆ แบรนด์ไม่น้อยนะคะ แม้กระทั่งเจ้าชายสุดติสต์คนนี้ก็ยังหวั่นไหว หันมาใช้โมเดลแบบ Tiktok For you กลายเป็นแถบ For you บน Twitter ขึ้นมาอีกหนึ่งแถบค่ะ แถมยังเป็นแถบเริ่มต้นอีกด้วย ทีนี้ทวิตหลาย ๆ ทวิตที่ชั้นไม่เคยได้ไปกดฟอลมันก็โผล่มาให้เห็นค่ะ เป็นกันทุกคน บางทีมันก็ดูน่ารำคาญนะคะ แต่บางทีมันก็แนะนำอะไรดี ๆ มาให้ดิชั้นได้บ้าง

แล้วชั้นจะทักไปหาใครได้บ้างเนี่ย Twitter ปรับลด DM เหลือเพียง 30 ข้อความต่อวัน (มิถุนายน 2566)

นัง Elon ก็สร้างเรื่องไม่หยุดไม่หย่อนจริง ๆ ค่ะ ก็เข้าใจอยู่นะคะว่าชาวนกฟ้ามักจะเจอพวกแสปมบอทกันอยู่บ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชวนเข้ากลุ่มนู่นนี่ หรือ พวกที่ชอบเล่นคริปโต NFT เจอประจำเลยค่ะ (เพื่อนบอกมา) ทีนี้นาง Elon ก็เลยปรับเหลือแค่ 30 ข้อความต่อวันกันซะเลย ทั้งยังต้องเป็นคนที่ติดตามกันทั้งคู่ถึงจะสามารถทัก Dm กันได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าการปรับเหลือ 30 ข้อความต่อวัน ทดลองอยู่แป๊บนึงแล้วก็เลิกไปค่ะ ก็ดีแล้วค่ะ 30 ข้อความนี่ไม่เรียกว่าคุยนะคะ

หวังดีอยากให้ออกไปข้างนอกด้วย “การจำกัดการมองเห็น” หรือ View Limit 1,000 ทวิตต่อวัน (กรกฎาคม 2566)

คราวนี้นางมาในคราบผู้ชายที่แสนดีค่ะ หวังดีว่าจะให้ชาวทวิตเตี้ยนออกไปเผชิญโลกกว้างบ้าง แต่ก็ขอรับไว้แต่ความหวังดีนะคะ เพราะว่านังมาด้วยเพลนจำกัดการมองเห็น Twitter Blue (มีเครื่องหมายถูกสีฟ้าที่แอคเคาน์) จะสามารถมองเห็นทวีตต่าง ๆ ได้ 10,000 ทวิตต่อวัน ผู้ใช้งานทั่วไปจะสามารถมองเห็นได้แค่ 1,000 ทวิต และถ้าเป็นแอคเคาน์เพิ่งสมัครจะเห็นได้แค่ 500 ต่อวันเท่านั้นจ๊ะ
อันอื่นยังไม่เท่าไหร่นะคะ แต่อันนี้กระทบมากจ้า เพื่อนสายอินฟลูของชั้นหลายวงการออกมาบ่นกันรัว ๆ เลย เพราะว่าจะทวิตแต่ละทีก็ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะครบโควต้าแล้วหรือยัง แถมไถทวิตไปก็กลัวว่าจะครบโควต้าก่อนเข้าออฟฟิศกันซะด้วย นอกจากนี้แบรนด์ต่าง ๆ เองยังต้องหยุดการปั่น Hashtag กันไว้ก่อนรวมถึงด้อมวายด้อมเกาด้วย กระทบกันหลากหลายวงการมากค่ะ
ก็ไม่รู้นะคะว่านัง Elon หลังจากที่รับคำตำหนิไปมากมายขนาดนี้แล้วจะเปลี่ยนไปอีกไหม แต่ลองมอง ๆ แพล็ตฟอร์มทางเลือกอื่นไว้บ้างก็น่าจะดีไม่น้อยนะคะ
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn