การมีทัศนคติเชิงบวกหรือการเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องจิตใจเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงด้านร่างกาย การคิดบวกหรือมองโลกในแง่ดีจะทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น ปรับอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น และลดความรู้สึกเครียดหรือกดดันที่นำไปสู่สภาวะทางต่าง ๆ เช่นโรคซึมเศร้า
และนี่คือ 7 เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเป็นคนมีทัศนคติดีมากขึ้น
1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยพลังด้านบวก
เวลาตลอดทั้งวันจะดีหรือแย่มักจะขึ้นอยู่กับว่าคุณเริ่มต้นวันใหม่แบบไหน หากว่าคุณตื่นมาด้วยความรู้สึกเครียด กังวล รู้สึกราวกับว่าวันนี้จะไม่มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้น นั่นเพราะคุณกำลังมองโลกในแง่ร้าย ลองเปลี่ยนมาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเพิ่มพลังด้านบวกให้ตัวเอง มองโลกในแง่ดีมากขึ้น บอกตัวคุณเองในกระจกตอนเช้า “วันนี้จะต้องเป็นวันที่ดี” หรือยิ้มให้ตัวเองในกระจกสักครั้ง คุณจะรู้สึกว่ามันดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
2. มีความสุขกับสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้น
ในแต่ละวันคุณจะต้องเจอกับอุปสรรค แน่นอนว่ามันไม่มีวันไหนที่สมบูรณ์แบบไปสะทั้งหมด แต่ถ้าคุณเลือกที่จะมองข้ามสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจไปบ้าง และหันมามีความสุขกับสิ่งเล็กน้อยรอบตัวคุณแทนอย่างเวลาที่คุณกำลังรถติดในตอนเช้า มันอาจจะทำให้คุณเสียเวลาไปบ้างแต่โลกมองในแง่ดีว่าอย่างน้อยคุณก็ยังไม่ฟังเพลงที่คุณชอบนานขึ้น
3. ในเวลาที่แย่ก็แค่หัวเราะออกมา
คอยเตือนตัวเองว่าสิ่งที่คุณเจอไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย ยังไงมันก็ต้องผ่านไปอยู่ดี ปล่อยให้ตัวเองหัวเราะบ้างก็ได้ในช่วงเวลาแย่ ๆ ที่คุณต้องเผชิญ และเรื่องที่คุณเจออยู่ตอนนี้ ในอนาคตอาจจะเป็นเรื่องเล่าที่คุณต้องหัวเราะทุกครั้งเวลานึกถึงมันก็ได้ ฉะนั้นในระหว่างที่คุณกำลังนั่งหน้าดำคร่ำเครียดกับงานของคุณ ลองหามุกตลกมาเล่นบ้าง หรือนึกอะไรสนุกขึ้นมาก็ลองเล่าให้คนอื่นฟัง นอกจากจะช่วยให้สถานการณ์ตอนนั้นดีขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยให้สภาพจิตใจคุณดีขึ้นอีกด้วย
4. เปลี่ยนความล้มเหลวให้กลายเป็นบทเรียน
อย่าลืมว่าคุณเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง และการทำผิดพลาดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คุณอาจจะโทษตัวเองว่าไม่ควรจะทำแบบนั้นและแทนที่จะเอาแต่คร่ำครวญในสิ่งที่คุณทำผิดพลาดไป ลองให้ความผิดพลาดนั้นเป็นครูที่ดีของคุณ ในเมื่อทำผิดและไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ก็รู้จักเรียนรู้จากมัน เรียนรู้ว่าอะไรที่เราควรทำไม่ควรทำ ครั้งต่อไปคุณอาจจะทำมันออกมาได้ดีมากก็ได้
5. เปลี่ยนจากโทษตัวเองมาเป็นให้กำลังใจตัวเองบ้าง
เป็นธรรมดาในบางครั้งที่คุณเจอปัญหาจนทำให้คุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถรับมือกับมันได้ หรือการที่คุณคอยโทษตัวเองว่าคุณดีไม่พอสำหรับอะไรซักอย่าง ลองสลัดความคิดในแง่ลบพวกนี้ทิ้งไป แล้วให้กำลังใจตัวเองแทนบ้าง ในวันที่คุณเจอชุดที่สวยมากแต่ดันไม่มีไซส์ที่คุณใส่ แทนที่จะโทษตัวเองว่าคุณมีรูปร่างที่แย่จนไม่สามารถใส่ได้ลองเปลี่ยนเป็นคิดว่ามีเสื้อผ้าอีกหลายแบบที่สวยและเหมาะกับคุณ การเปลี่ยนความคิดต่อตนเองนั้นจะทำให้คุณมีความสุขขึ้น
6. อยู่กับปัจจุบัน
การที่คุณมัวแต่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมันยิ่งทำให้คุณไม่ก้าวไปข้างหน้าสักที การอยู่กับปัจจุบันไม่ได้หมายถึงแค่ว่าคุณจะต้องอยู่กับวันนี้ ช่วงโมงนี้ แต่หมายถึงวินาทีนี้เลยต่างหาก เมื่อ 5 นาทีที่แล้วถ้าคุณโดนหัวหน้าดุด่าเรื่องงานที่คุณทำ คุณอาจจะรู้สึกแย่กับสิ่งที่เจ้านายพูดแต่อีก 5 นาทีต่อมามันอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป อย่าเก็บมันไว้ให้ตัวคุณเองทุกข์
7. อยู่กับคนคิดบวกให้มากขึ้น
เมื่อคุณอยู่ท่ามกลางคนที่มองโลกในแง่บวกหรือคนที่มีแนวความคิดดีคุณก็จะได้รับแต่สิ่งดี ๆ จากพวกเขา การรับฟังเรื่องเล่าหรือข้อคิดจากคนที่มองโลกในแง่บวกก็จะช่วยเพิ่มพลังให้คุณมากขึ้น เพราะการที่คุณอยู่กับคนประเภทไหนก็จะส่งผลให้คุณเป็นแบบนั้นด้วย พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่กับคนมองโลกในแง่ร้ายและคิดแต่ในเชิงลบบ้าง เพราะการที่คุณรับฟังเรื่องแย่ ๆ จากคนอื่นก็จะทำให้คุณรู้สึกแย่ไปด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น การที่ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่มีทัศนคติดีก็จะทำให้คุณมีความสุขได้มากขึ้น
ขอบคุณข้อมูล : success
แปลโดย : พรรษชล ทิทำ