ทำไม “Super Bowl” ถึงเป็นมากกว่าการแข่งขัน

ทำไม “Super Bowl” ถึงเป็นมากกว่าการแข่งขัน

ศึกชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอลอาชีพประจำปีของเอ็นเอฟแอล หรือ ที่เรารู้จักกันชื่อ “ซูเปอร์โบวล์” แม้ว่าสำหรับเราคนไทยอาจจะไม่ได้อินขนาดนั้น แต่สำหรับคนอเมริกานี่คือการแข่งขันที่ผู้พวกเขาเฝ้ารอมากที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่แข่งขันที่เป็นไฮไลท์หลักแล้ว ยังมีสิ่งที่ช่วงของ “Halftime Show” ที่ถือเป็นช่วงเวลาโอกาสทองของบรรดาสินค้าและแบรนด์ดังที่ต่างก็พร้อมทุ่มเงินหลายล้านเพื่อแลกกับการโฆษณาเพียง 30 วินาที รวมไปถึงการแสดงต่าง ๆ มาคอยสร้างสีสันให้การแข่งขัน “ซูเปอร์โบวล์” ในแต่ละครั้ง จนไม่ว่าใครก็อยากติดตาม

.

ต้องเท้าความกันก่อนว่าสำหรับคนอเมริกัน “กีฬาอเมริกันฟุตบอล” ถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคทศวรรษ 1960s เป็นต้นมา มันฮิตถึงขนาดเมื่อปี 2021 ได้มีการทำแบบสอบถามชาวอเมริกันว่ากีฬาอะไรครองใจพวกเขามากที่สุดผลออกมาก็คือ อเมริกันฟุตบอลได้รับผลโหวตไปถึง 37% ทิ้งห่างบาสเกตบอลที่ได้ผลโหวตไปเพียง 11% ชนิดเรียกได้ว่าไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว

.

ด้วยความที่ได้รับความนิยมมากขนาดนี้จึงทำให้ในแต่ละปีแบรนด์ดังต่าง ๆ จึงพร้อมสู้เพื่อแลกกับการโฆษณาเพียง 30 วินาที สำหรับในปีนี้ทางสถานีโทรทัศน์ NBC ที่รับหน้าที่ลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ได้ออกมาประกาศว่า ซูเปอร์โบวล์ครั้งนี้มีมูลค่าโฆษณาสูงถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ราว 228 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันนี้ สวนทางทิศทางเศรษฐกิจและปัญหาโรคระบาดกันเลยก็ว่าได้

.

สำหรับยอดผู้ชมในการแข่งขันครั้งนี้ก็น่าสนใจเพราะนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่มีผู้ชมมากที่สุด โดยมีการเปิดเผยออกมาว่าปีนี้มีผู้ชมเฉลี่ย 112 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ชมทางโทรทัศน์ 101 ล้านคนและทางสตรีมอีก 11 ล้านคน สะท้อนให้เป็นว่าสำหรับซูเปอร์โบวล์แล้ว ยังคงอยู่ในยุคที่โทรทัศน์ยังขายได้อยู่ แม้ว่าปัจจุบันจะมีช่องทางการรับชมที่มากขึ้น แต่การชมทางหน้าจอทีวีก็มีมนต์ขลังครองใจผู้ชมทางบ้านและแฟนกีฬาทั่วโลกอยู่

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn